Boundary Effect คืออะไร

Boundary Effect คืออะไร
ในการวางตำแหน่งของลำโพงนั้นมีผลต่อความดังเสียง เราไม่สามารถที่จะวางตำแหน่งตรงไหนตามใจเราได้ เคยสงสัยกันไหมครับว่าในการวางตำแหน่งติดตั้งลำโพงนั้น เมื่อติดตั้งลำโพงชิดผนัง ชิดมุมห้อง หรือพื้นผิวที่เป็นของเเข็งเเละมีขนาดใหญ่ จะทำให้ได้เสียงความถี่ต่ำที่มากขึ้นจากเดิม จนบางทีก็เพิ่มขึ้นจนมากเกินไป ในส่วนนี้ล้วนเเล้วเเต่เป็นเรื่องของพฤติกรรมของเสียงที่เกิดขึ้น เรียกว่า Boundary Effect นั่นเอง
Boundary Effect คือการเพิ่มขึ้นของความดังเสียง ในตำแหน่งการวางต่างๆ ส่วนมากจะมีผลกับความถี่ต่ำให้ได้ยินดังขึ้นมากกว่าความถี่เสียงสูง เพราะความถี่ต่ำนั้นจะเลี้ยวเบนออกจากตู้ ทำให้เกิดการสะท้อนของเสียงด้านหลังตู้ออกมามากกว่าความถี่เสียงสูง ที่มักจะพุ่งไปข้างหน้าไม่เลี้ยวเบน
จากเรื่องพฤติกรรมของเสียง เสียงความถี่สูงจะมีทิศทางที่ชัดเจน ส่วนเสียงความถี่ต่ำ จะสามารถเลี้ยวเบนอ้อมวัตถุต่างๆได้ เเละมักจะกระจายทั่วทุกทิศทุกทางจากแหล่งกำเนิด ทำให้เมื่อติดตั้งอยู่ติดกับส่วนของผนัง พื้น เพดานซึ่งเป็นสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ ทำให้เกิดการก่อตัวเพิ่มขึ้นของเสียงความถี่ต่ำเรียกว่า “Boundary Effect” ซึ่งจะเกิดมากน้อยเเค่ไหนขึ้นอยู่การติดตั้งดังต่อไปนี้

Free Space
Free Space เมื่อติดตั้งลำโพงอยู่ในพื้นที่ไม่มีเสียงสะท้อน หรือพื้นที่โล่งโดยไม่ติดกับพื้น ผนัง เพดานหรือ พื้นผิวที่เป็นของเเข็งเเละมีขนาดใหญ่ การติดตั้งเเบบนี้จะไม่เกิด

Half Space
Half-space เมื่อมีส่วนของพื้น ผนัง เพดาน หรือพื้นผิวที่เป็นของเเข็งเเละมีขนาดใหญ่ ติดอยู่ด้านใดด้านหนึ่งของลำโพง จะทำให้ความถี่เสียงต่ำดังขึ้น +3dB

Quarter Space
Quarter-space เมื่อมีส่วนของพื้น ผนัง เพดาน หรือพื้นผิวที่เป็นของเเข็งเเละมีขนาดใหญ่ ติดอยู่กับลำโพงทั้งสองด้าน จะทำให้ความถี่เสียงต่ำดังขึ้น +6dB

One-eighth Space
One-eighth space เมื่อมีส่วนของพื้น ผนัง เพดาน หรือพื้นผิวที่เป็นของเเข็งเเละมีขนาดใหญ่ ติดอยู่กับลำโพงทั้งสามด้าน หรือวางลำโพงเข้ามุม จะทำให้ความถี่เสียงต่ำดังขึ้น +9dB
ดูสินค้าระบบเสียงได้ที่ www.siamsoundstore.com