บทความ

Megaphone หรือ โทรโข่ง คืออะไร พร้อมวิธีเลือกซื้อ

Megaphone หรือ โทรโข่ง คืออะไร พร้อมวิธีเลือกซื้อ

Megaphone หรือ โทรโข่ง คืออะไร

          ในยุคที่มนุษย์ได้คิดค้นเครื่องขยายเสียงขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนจำนวนมากนั้น ได้ยินเสียงผู้จะสื่อสารได้ชัดเจน จึงต้องมีระบบขยายเสียงขนาดใหญ่เพื่อรองรับคนจำนวนมาก ๆ ให้สามารถได้ยินชัดเจน ถ้าเป็นคนหลักร้อยหลักพันคนในพื้นที่ขนาดใหญ่นั้น เราต้องมีระบบขยายเสียงซึ่งประกอบไปด้วย ไมโครโฟน มิกเซอร์ เพาเวอร์แอมป์ และลำโพง หากเป็นกลุ่มคนที่รวมตัวกันแล้วนั่งฟังอยู่กับที่ไม่เคลื่อนย้าย ก็คงไม่มีปัญหาอะไร

          แต่ถ้าเป็นกลุ่มใหญ่ที่ต้องเคลื่อนที่ไปด้วย เช่น การไปชมนิทรรศการ การเข้าค่ายลูกเสือ การแข่งขันกีฬา สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องการสื่อสารที่ต้องควบคุมฝูงชนทั้งสิ้น หากจะแบกอุปกรณ์ทั้งหมดที่ว่ามา เคลื่อนที่ไปด้วยก็คงลำบาก อาจจะต้องใช้แรงคนและรถขนขนาดใหญ่ แล้วมีอุปกรณ์อะไรละที่สามารถเคลื่อนย้ายด้วยคน ๆ เดียว มีไมโครโฟนและระบบลำโพงขยายเสียงให้ได้ยินเสียงพูดเสียงตะโกนชัดเจน มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย แน่นอน อุปกรณ์ชิ้นนั้นคงหนีไม่พ้น “โทรโข่ง” เครื่องขยายเสียงแบบพกพาชั้นดี ที่มีความดังชัดเจน เคลื่อนย้ายได้ตามต้องการ

megaphone โทรโข่ง

            Megaphone (เม้กเก้อโฟน) หรือ โทรโข่ง นั้นคืออุปกรณ์ขยายเสียงให้ผู้บรรยาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูด เสียงร้อง หรือเสียงต่าง ๆ เพื่อส่งไปยังทิศทางที่เราต้องการ ตัวโทรโข่งนั้นจะมีรูปลักษณะคล้ายกรวยจราจร ถ้าเป็นเครื่องดนตรีก็ลักษณะคล้ายกับทรัมเป็ต นั้นเอง

ในปัจจุบันนั้นเสียงพูดของคนสามารถส่งผ่านโทรโข่งได้ไกลถึง 800 เมตร ส่วนเสียงอื่น ๆ สามารถส่งได้ไกลถึง 1 กิโลเมตร

          เคยสงสัยหรือเปล่าว่า ทำไมลำโพงฮอร์นถึงมีลักษณะที่เป็นทรงรูปกรวย? นั่นเพราะว่ารูปทรงกรวยแบบนี้จะทำให้เสียงนั้นมีทิศทางไม่กระจัดกระจาย สามารถส่งไปได้ไกลนั้นเอง โดยปกติแล้วเสียงพูดของคนเราจากปากนั้นจะมีการกระจายเสียงรอบทิศทางในลักษณะของ Polar Pattern แบบ Omnidirectional ในย่านความถี่ต่ำ โดยมีวิธีการเทสการนำมือทั้งสองข้างมาป้องไว้ที่ปากแล้วตะโกนแล้วจะสังเกตุได้ว่าเสียงนั้นจะมีทิศทางการพุ่งไปข้างหน้าและได้เสียงที่ดังกว่าการตะโกนด้วยปากเปล่า ทำให้ผู้ฟังที่อยู่ห่างไปจากตัวผู้พูดสามารถได้ยินเสียงนั้นได้ชัดเจนขึ้นก็มาจากการที่คลื่นเสียงนั้นเกิดการสอดแทรกแล้วเกิดการเสริมกันของเสียง ทำให้เสียงดังมากขึ้นนั่นเองครับ

          ด้วยเหตุผลนี้ จึงเป็นที่มาของโทรโข่ง เข้ามาช่วยขยายเสียงให้ดังและฟังได้ไกลขึ้น เพื่อช่วยให้การสื่อสารได้ยินชัดเจนมากยิ่งขึ้นไปอีก

โทรโข่งที่ใช้กันทั่วไป จะมีอยู่ 2 แบบ

acoustic megaphone

โทรโข่งแบบ Acoustic (อคูสติก)

            โดยโทรโข่งแบบอคูสติกนั้นจะทำการขยายเสียงให้เป็นธรรมชาติ ไม่มีเรื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่อัตราการขยายเสียงจะต่ำกว่า เหมาะกับการใช้ในระยะที่ผู้พูดกับผู้ฟังอยู่ห่างกันไม่มาก ซึ่งข้อดีของแบบอคูสติกก็คือ มีราคาที่ไม่สูงมาก ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก

electronic megaphone

โทรโข่งแบบ Electronic (อิเล็กทรอนิกส์)

            ในส่วนของโทรโข่งแบบอิเล็กทรอนิกส์นั้นจะประกอบไปด้วย ไมโครโฟน ลำโพง แบตเตอรี่ที่ทำหน้าที่จ่ายไฟ และที่ขาดไปไม่ได้ก็คือวงจรภาคขยายเสียง ไมโครโฟนจะทำหน้าที่รับสัญญาณเสียงจากผู้พูดเพื่อแปลงสัญญาณไฟฟ้า จากนั้นสัญญาณดังกล่าวจะถูกขยายเป็นสัญญาณไฟฟ้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยวงจรภาคขยาย และขั้นตอนสุดท้ายตัวดอกลำโพงนั้นจะทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้านั้นให้กลับมาเป็นสัญญาณสียงที่คนเราได้ยินด้วยหู

          โทรโข่งที่ใช้แบบถือ บางรุ่นนั้นสามารถห้อยแนบกับลำตัว (แบบสะพายไหล่) บางรุ่นสามารถใช้ติดตั้งบนรถ หรือที่สูงได้โดยหันปากของโทรโข่งไปยังทิศทางที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้เราสามารถกระจายเสียงออกไประยะไกล ๆ ได้

5 เหตุผล ที่จำเป็นต้องใช้โทรโข่ง

megaphone โทรโข่ง
  1. ไว้สื่อสารในพื้นที่ขนาดใหญ่
  2. ต้องการความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
  3. ขยายเสียงประกาศในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป
  4. ประหยัดแรงในการขนย้ายและเวลาในการทำงาน
  5. ใช้งานง่ายได้ผลที่ดีเกินคาด

          เมื่อเข้าใจเหตุผลจำเป็นในการที่ต้องใช้ “โทรโข่ง” กันแล้ว คราวนี้เรามาดูวิธีเลือกซื้อ “โทรโข่ง” ให้เหมาะสมกับการใช้งานกันบ้าง

3 วีธี การเลือกซื้อโทรโข่ง

1. ความดังและระยะที่ต้องการใช้งาน

          หากเราไปในพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างเช่นสนามกีฬา ซึ่งมีความกว้างมาก การที่จะประกาศเรียกตัวหรือปล่อยตัวนักกีฬานั้น จำเป็นต้องใช้โทรโข่งที่ให้ความดังพอสมควร เพราะจากกฎการลดลงของเสียง “เมื่อระยะทางเพิ่มขึ้นเสียงจะเบาลง” จึงจำเป็นต้องดูกำลังวัตต์ ยกตัวอย่าง เช่น โทรโข่งที่มีกำลังวัตต์น้อยอาจจะส่งเสียงได้ยินชัดแค่ 100 เมตร แต่โทรโข่งที่กำลังวัตต์สูง ๆ จะส่งเสียงได้ยินชัดที่ระยะ 1000 เมตร ทั้งนี้ทั้งนั้น ให้เลือกตามความเหมาะสมกับพื้นที่และระยะทางที่ต้องการสื่อสาร

2. ระยะเวลาในการใช้งาน

          สิ่งที่จำเป็นอีกอย่างคือ พลังงานที่ใช้ โดยส่วนใหญ่แล้ว โทรโข่งมักจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งยิ่งโทรโข่งที่มีกำลังวัตต์สูงก็จะกินแบตเตอรี่เยอะ หากเราต้องใช้ทั้งวัน และต้องการประกาศแค่กลุ่มเล็ก ๆ ก็ควรจะเลือกโทรโข่งที่กินกำลังวัตต์ไม่สูงมาก หรือหากจะใช้กำลังขยายสูง ๆ และไปในพื้นที่ ๆ ไม่มีร้านสะดวกซื้อ ก็ควรจะหาโทรโข่งที่ใช้ถ่านหรือแบตเตอรี่ที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายของชำ หรือใช้โทรโข่งที่สามารถใส่ถ่านชาร์จได้

3. รูปแบบการใช้งานและฟังก์ชั่นเพิ่มเติมต่าง ๆ

          รูปแบบการใช้งานนั้นก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการเลือกซื้อโทรโข่ง เพราะนั่นหมายความว่าหากเลือกซื้อผิดประเภท มันจะสร้างภาระในการใช้งานเป็นอย่างยิ่ง เราต้องคิดก่อนว่าเราใช้งานแบบไหนสะดวกที่สุด สะพายบ่าแล้วมีไมค์พูด หรือยกขึ้นมาใช้มือโทรโข่งแล้วพูดออกไป แน่นอนว่ามันมันใช้งานได้ไม่เหมือนกันแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น หากเราเลือกซื้อโทรโข่งที่เป็นแบบสะพายบ่าอย่างเดียว เราก็จะใช้ได้แค่ยืนพูดแล้วผู้ฟังนั่งอยู่กับพื้น เพราะหากนำโทรโข่งแบบนี้ไปใช้งานในรูปแบบที่เดินบรรยายคนมาก คนที่เดินอยู่ข้างหลังก็จะได้ยินเสียงไม่ชัดเจน เพราะลำโพงอยู่ต่ำกว่าหูและโดนคนด้านหน้าบังเสียงจนขาดความชัดเจน 

          การซื้อโทรโข่งที่ใช้ได้ทั้งแบบสะพายและถือด้วยมือก็จะใช้งานได้หลากหลายกว่า แต่ถ้าใช้ที่เป็นกำลังวัตต์สูง ๆ การถือด้วยมือก็ต้องแข็งแรงพอสมควร ส่วนลูกเล่นต่าง ๆ เช่น บันทึกเสียงเล่นกลับ เสียงนกหวีด เสียงไซเรน ก็ตามความต้องการใช้งาน หากเราเป็นคนขายของ มันก็มีความจำเป็นต้องเลือกที่มีเสียงนกหวีดหรือไซเรน ถ้าแข่งขันกีฬา ก็ควรเลือกที่มีนกหวีดเป็นหลัก หากเป็นกู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง หน่วยพยาบาล ก็ควรใช้ที่มีเสียงไซเรนเป็นหลัก เลือกใช้งานตามหน้าที่ จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โทรโข่งยี่ห้อ TOA ดีอย่างไร?

TOA Megaphone

          ชื่อเสียงของ TOA นั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบเสียงมาอย่างยาวนาน ทั้งเรื่องเทคโนโลยีและคุณภาพของสินค้าที่เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก และสินค้าของ TOA ที่ได้รับการยอมรับได้แก่ สินค้าในระบบเสียงประกาศ เช่น ไมโครโฟน ลำโพง เพาเวอร์แอมป์ขยายเสียง และทาง TOA ก็ได้ดันอุปกรณ์ที่เป็นระบบเสียงประกาศแบบเคลื่อนย้ายได้ เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานมากยิ่งขึ้น เรามาดูกันดีกว่าว่า โทรโข่ง หรือ Megaphone ของ TOA นั้น มีรุ่นไหนน่าใช้บ้าง

โทรโข่งแบบมือถือกันน้ำ (Splash-proof Hand Grip Type Megaphone) ได้แก่รุ่น

TOA ER-1203

TOA ER-1203

  • โทรโข่งแบบมือถือที่สามารถกันน้ำได้มาตรฐาน IPX5
  • ขนาดกำลังขยาย 3 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 4 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด AA จำนวน 4 ก้อน อยู่ได้นาน 8 ชั่วโมง
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 125 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 500Hz – 6kHz
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film ใช้แม่เหล็กแบบนีโอไดเนียม
  • มีน้ำหนัก 610 กรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
  • สามารถติดกับผนังได้โดยใช้ Wall Mount รุ่น SP-1100
TOA ER-1206

TOA ER-1206

  • โทรโข่งแบบมือถือที่สามารถกันน้ำได้มาตรฐาน IPX5
  • ขนาดกำลังขยาย 6 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 10 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด AA จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 8 ชั่วโมง
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 250 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 450Hz – 6kHz
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film ใช้แม่เหล็กแบบนีโอไดเนียม
  • มีน้ำหนัก 660 กรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
  • สามารถติดกับผนังได้โดยใช้ Wall Mount รุ่น SP-1100
TOA ER-1206S

TOA ER-1206S

  • โทรโข่งแบบมือถือมีเสียง “ไซเรน” ที่สามารถกันน้ำได้มาตรฐาน IPX5
  • ขนาดกำลังขยาย 6 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 10 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด AA จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 8 ชั่วโมง เปิดเสียงไซเรนดังต่อเนื่องได้นาน 20 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 250 เมตร เสียงไซเรนได้ไกล 315 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 450Hz – 6kHz
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film ใช้แม่เหล็กแบบนีโอไดเนียม
  • มีน้ำหนัก 680 กรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
  • สามารถติดกับผนังได้โดยใช้ Wall Mount รุ่น SP-1100
TOA ER-1206W

TOA ER-1206W

  • โทรโข่งแบบมือถือมีเสียง “นกหวีด” ที่สามารถกันน้ำได้มาตรฐาน IPX5
  • ขนาดกำลังขยาย 6วัตต์ ขยายได้สูงสุด 10วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด AA จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 8 ชั่วโมง เปิดเสียงนกหวีดดังต่อเนื่องได้นาน 20 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 250 เมตร เสียงนกหวีดได้ไกล 315 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 450Hz – 6kHz
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film ใช้แม่เหล็กแบบนีโอไดเนียม
  • มีน้ำหนัก 680 กรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
  • สามารถติดกับผนังได้โดยใช้ Wall Mount รุ่น SP-1100

โทรโข่งแบบมือถือ (Hand Grip Type Megaphone) ได้แก่รุ่น

TOA ER-520

TOA ER-520

  • โทรโข่งแบบมือถือ ขนาดกำลังขยาย 6 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 10 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด AA จำนวน 8 ก้อน อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมง
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 250 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • มีน้ำหนัก 620 กรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
TOA ER-520S

TOA ER-520S

  • โทรโข่งแบบมือถือมีเสียง “ไซเรน” ขนาดกำลังขยาย 6 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 10 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด AA จำนวน 8 ก้อน อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมง เปิดเสียงไซเรนดังต่อเนื่องได้นาน 40 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 250 เมตร เสียงไซเรนได้ไกล 315 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • มีน้ำหนัก 650 กรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
TOA ER-520W

TOA ER-520W

  • โทรโข่งแบบมือถือมีเสียง “นกหวีด” ขนาดกำลังขยาย 6 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 10 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด AA จำนวน 8 ก้อน อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมง เปิดเสียงไซเรนดังต่อเนื่องได้นาน 40 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 250 เมตร เสียงไซเรนได้ไกล 315 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • มีน้ำหนัก 650 กรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
TOA ER-1215

TOA ER-1215

  • โทรโข่งแบบมือถือ ขนาดกำลังขยาย 15 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 23 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด C จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 14 ชั่วโมง ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 315 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
TOA ER-1215S

TOA ER-1215S

  • โทรโข่งแบบมือถือมีเสียง “ไซเรน” ขนาดกำลังขยาย 15 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 23 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด C จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 14 ชั่วโมง เปิดเสียงไซเรนดังต่อเนื่องได้นาน 20 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 315 เมตร เสียงไซเรนได้ไกล 500 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
TOA ER-3215

TOA ER-3215

  • โทรโข่งแบบมือถือพร้อมไมโครโฟนมีเสียง “ไซเรน” ขนาดกำลังขยาย 15 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 23 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด C จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 9 ชั่วโมง
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 400 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • ตัวโทรโข่งมีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่ไมโครโฟน) ไมโครโฟนหนัก 150 กรัม
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
TOA ER-3215S-AS

TOA ER-3215S AS

  • โทรโข่งแบบมือถือพร้อมไมโครโฟน ขนาดกำลังขยาย 15 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 23 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด C จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 9 ชั่วโมง เปิดเสียงไซเรนดังต่อเนื่องได้นาน 20 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 400 เมตร เสียงไซเรนได้ไกล 500 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • ตัวโทรโข่งมีน้ำหนัก 15 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่ไมโครโฟน) ไมโครโฟนหนัก 150 กรัม
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส

โทรโข่งแบบสายสะพาย (Shoulder Type Megephone) ได้แก่รุ่น

TOA ER-2215

TOA ER-2215

  • โทรโข่งแบบมีสายสะพาย ขนาดกำลังขยาย 15 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 23 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด C จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 9 ชั่วโมง
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 400 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • ตัวโทรโข่งมีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่ไมโครโฟน) ไมโครโฟนหนัก 150 กรัม
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
TOA ER-2215S-AS

TOA ER-2215S AS

  • โทรโข่งแบบมีสายสะพายมีเสียง “ไซเรน” ขนาดกำลังขยาย 15 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 23 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด C จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 9 ชั่วโมง เปิดเสียงนกหวีดดังต่อเนื่องได้นาน 20 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 400 เมตร เสียงนกหวีดได้ไกล 500 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • ตัวโทรโข่งมีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่ไมโครโฟน) ไมโครโฟนหนัก 150 กรัม
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
TOA ER-2215W

TOA ER-2215W

  • โทรโข่งแบบมีสายสะพายมีเสียง “นกหวีด” ขนาดกำลังขยาย 15 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 23 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด C จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 9 ชั่วโมง เปิดเสียงนกหวีดดังต่อเนื่องได้นาน 20 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 400 เมตร เสียงนกหวีดได้ไกล 500 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • ตัวโทรโข่งมีน้ำหนัก 2 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่ไมโครโฟน) ไมโครโฟนหนัก 150 กรัม

ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส

TOA ER-2230W

TOA ER-2230W

  • โทรโข่งแบบมีสายสะพายมีเสียง “นกหวีด” ขนาดกำลังขยาย 30 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 45 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด D จำนวน 10 ก้อน อยู่ได้นาน 17 ชั่วโมง เปิดเสียงนกหวีดดังต่อเนื่องได้นาน 90 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 800 เมตร เสียงนกหวีดได้ไกล 1000 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • มีช่องต่อไมค์สายแยก ช่องต่อ Aux 3.5 mm และช่องต่อไฟ DC
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • ตัวโทรโข่งมีน้ำหนัก 6 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่ไมโครโฟน) ไมโครโฟนหนัก 150 กรัม
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ – 10 องศา ถึง + 40 องศาเซลเซียส
  • มีอุปกรณ์ที่แถมมาในกล่อง สาย 3.5 mm 1 เส้น สายต่อ Power Supply ยาว 1 เมตร 1 เส้น
TOA ER-2930W

TOA ER-2930W

  • โทรโข่งแบบมีสายสะพายมีเสียง “นกหวีด” ขนาดกำลังขยาย 30 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 45 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด D จำนวน 10 ก้อน อยู่ได้นาน 17 ชั่วโมง เปิดเสียงนกหวีดดังต่อเนื่องได้นาน 90 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 800 เมตร เสียงนกหวีดได้ไกล 1000 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • มีช่องต่อไมค์สายแยก ช่องต่อ Aux 3.5 mm และช่องต่อไฟ DC
  • สามารถรับสัญญาณวิทยุคลื่นความถี่ย่าน UHF (800MHz), VHF (200MHz)
  • ตัวไดอะแฟรมทำจากวัสดุ Polyimide film
  • ตัวโทรโข่งมีน้ำหนัก 8 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่ไมโครโฟน) ไมโครโฟนหนัก 150 กรัม
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
  • มีอุปกรณ์ที่แถมมาในกล่อง สาย 3.5 mm 1 เส้น สายต่อ Power Supply ยาว 1 เมตร 1 เส้น
TOA ER-1000

TOA ER-1000

  • โทรโข่งแบบมือถือพร้อมไมโครโฟนแบบคาดหัว
  • ขนาดกำลังขยาย 6 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 10 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด AA จำนวน 6 ก้อน อยู่ได้นาน 5.5 ชั่วโมง
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 80 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 300Hz – 14kHz
  • มีน้ำหนัก 480 กรัม
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ 0 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
TOA ER-604W

TOA ER-604W

  • โทรโข่งแบบมีสายสะพายมีเสียง “นกหวีด” ขนาดกำลังขยาย 6 วัตต์ ขยายได้สูงสุด 10 วัตต์
  • ใช้ถ่านชนิด AA จำนวน 8 ก้อน อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมง เปิดเสียงนกหวีดดังต่อเนื่องได้นาน 30 นาที
  • ส่งเสียงพูดได้ไกลสูงสุด 160 เมตร เสียงนกหวีดได้ไกล 160 เมตร
  • ตอบสนองความถี่ครอบคลุมย่านเสียงพูดได้กว้าง
  • มีช่องต่อไมค์สายแยก ช่องต่อ Aux 3.5 mm
  • ตัวโทรโข่งมีน้ำหนัก 6 กิโลกรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ใช้ได้กับสภาพอากาศได้ตั้งแต่อุณหภูมิ -10 องศา ถึง +40 องศาเซลเซียส
  • มีอุปกรณ์ที่แถมมาในกล่อง สาย 3.5 mm 1 เส้น สายต่อ Power Supply ยาว 1 เมตร 1 เส้น

สรุป :

            การเลือกโทรโข่งควรเลือกตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานของผู้ที่จะนำไปใช้งานเองว่าจะนำไปใช้ในงานประมาณไหน สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจคือระยะการส่งเสียง ชั่วโมงการใช้งาน จำนวนแบตเตอรี่ และตามด้วยกำลังในขยายเสียงนั่นเองครับ อยากเลือกซื้อ โทรโข่ง หรือ ชุดเครื่องเสียงเคลื่อนที่ขนาดเล็ก ให้เหมาะสมกับการใช้งาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

    โทรศัพท์ 02-550-6340, 064-198-2499

    Line : @liveforsound

    Email : [email protected]

บทความโดย: วิชยุตม์ เตชะเกิดกมล (Content Creator)

ทีมงาน LIVE FOR SOUND เราพร้อมให้คำปรึกษาทุกด้าน พร้อมรับตรวจเช็ค แก้ไขปัญหาระบบเสียงทุกรูปแบบ โดยทีมงานมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี

สอบถามข้อมูลได้ทาง