ระดับเสียง (Audio Level) คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญในระบบเสียง?

บทนำ

“ระดับเสียง” หรือ Audio Level เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของระบบเสียง (Sound System) ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเสียง การถ่ายทอดสด หรือการใช้งานในระบบเสียงในสถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงละคร สนามกีฬา หรือโบสถ์ การเข้าใจและควบคุมระดับเสียงอย่างถูกต้องมีผลโดยตรงต่อคุณภาพเสียง ความชัดเจน และความปลอดภัยของระบบเสียงทั้งหมด

1. Audio Level คืออะไร?

ระดับเสียง (Audio Level) หมายถึง ความแรงของสัญญาณเสียง ที่ส่งผ่านในระบบเสียง ซึ่งอาจอยู่ในรูปของแรงดันไฟฟ้า (Voltage), กำลังไฟฟ้า (Power), หรือระดับความดันเสียง (Sound Pressure Level – SPL) ขึ้นอยู่กับว่าพิจารณาที่จุดใดในระบบ

โดยทั่วไป เราจะแบ่งระดับเสียงออกเป็น 3 กลุ่มหลัก:

ประเภท

คำอธิบาย

หน่วย

Mic Level

ระดับเสียงจากไมโครโฟน (เล็กมาก)

mV

Line Level

ระดับเสียงจากเครื่องเล่น, มิกเซอร์

~1 V

Speaker Level

สัญญาณที่ขับลำโพง (สูงมาก)

หลายโวลต์ถึงหลายสิบโวลต์

2. การวัดระดับเสียง

ระดับเสียงสามารถวัดได้ทั้งในรูปแบบ:

  • ระดับแรงดันไฟฟ้า (Voltage) เช่น dBu หรือ dBV
  • กำลัง (Power) เช่น dBm
  • ความดันเสียง (SPL) เช่น dB SPL (ใช้กับเสียงในอากาศ)

หน่วย เดซิเบล (dB) เป็นหน่วยเชิงลอการิทึมที่ใช้วัดอัตราส่วน (ratio) เช่น ความแรงของเสียงเมื่อเทียบกับค่ามาตรฐาน

ตัวอย่าง:

  • 0 dB SPL = เสียงที่มนุษย์เริ่มได้ยิน
  • 85 dB SPL = ระดับเสียงในสำนักงาน
  • 120 dB SPL = จุดที่เริ่มรู้สึกเจ็บหู

อ้างอิง: [Sound Systems: Design and Optimization – Bob McCarthy]

3. ทำไมต้องควบคุมระดับเสียง?

การควบคุมระดับเสียงที่เหมาะสมมีความสำคัญมาก เนื่องจาก:

  • ✅ ป้องกัน เสียงแตก (Distortion) จากการขับสัญญาณแรงเกิน
  • ✅ รักษา ความคมชัดของเสียง (Clarity)
  • ✅ ป้องกัน ฟีดแบ็ค (Feedback) ในระบบขยายเสียง
  • ✅ ช่วยให้ได้ ไดนามิกเรนจ์ (Dynamic Range) ที่ดีที่สุด
  • ✅ ป้องกันการ ทำงานเกินกำลัง (Overload) ของอุปกรณ์ เช่น แอมป์ ลำโพง

4. ตัวอย่างการตั้งระดับเสียงที่เหมาะสม

  1. ระดับเสียงจากไมค์ (Mic Level):
    • ต้องใช้ Preamp เพื่อขยายสัญญาณให้ถึง Line Level
    • หากขยายมากเกินไป จะเกิด Noise หรือ Clip
  1. มิกเซอร์ไปยังลำโพง:
    • ใช้ VU Meter / Peak Meter เพื่อดูว่าสัญญาณอยู่ในช่วงปลอดภัย (ปกติอยู่ที่ -6 ถึง 0 dBFS ในระบบดิจิตอล)
  1. ระบบลำโพง:
    • ควรตั้งลำโพงไม่ให้เกินกำลังขับสูงสุด เพื่อป้องกันลำโพงไหม้

5. เครื่องมือที่ใช้วัดและควบคุม Audio Level

  • VU Meter – ใช้วัดระดับเสียงเฉลี่ย
  • Peak Meter – ใช้วัดค่าสูงสุดของสัญญาณ
  • SPL Meter – ใช้วัดระดับเสียงในอากาศ (หน่วย dB SPL)
  • RTA (Real Time Analyzer) – วิเคราะห์ความถี่พร้อมระดับเสียง
  • DAW/Analyzer Software – ใช้ในระบบดิจิตอล

สรุป

การเข้าใจและควบคุม Audio Level เป็นทักษะพื้นฐานแต่สำคัญสำหรับทุกคนที่ทำงานเกี่ยวกับระบบเสียง ทั้งนักเสียง วิศวกร และช่างเทคนิค เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพเสียง ความปลอดภัยของอุปกรณ์ และประสบการณ์ของผู้ฟัง

“ระดับเสียงที่ดี ไม่ใช่แค่ได้ยินเสียงดัง แต่คือได้ยินเสียงที่ ‘ชัดเจน’ และ ‘มีคุณภาพ’ ตลอดทั้งพื้นที่ฟัง”

pastedGraphic.png

หากต้องการบทเรียนเพิ่มเติม เช่น การใช้ dB ในระบบเสียง, การคำนวณ Gain Structure หรือการปรับ Headroom – สามารถแจ้งได้เลยครับ ผมจะเตรียมบทเรียนให้เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่างเสมอ

หลักสูตร Sound Engineer

สนใจเรียนหลักสูตร Sound Engineer สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 02-550-6340 หรือ 064-198-2499Email: course@liveforsound.com Line: @liveforsound ทางเรายินดีให้คำปรึกษาด้านการเรียนเกี่ยวกับ Sound Engineer

บริการระบบเสียงมืออาชีพ

Live For Sound รับออกแบบ ติดตั้ง จำหน่าย ระบบเครื่องเสียงห้องประชุม พร้อมบริการหลังการขายแบบครบวงจร ด้วยทีมงานระดับมืออาชีพ มาตรฐานสากล สอบถามเพิ่มเติมโทร 02-550-6340, 064-198-2499 อีเมล์ sale@liveforsound.com

 

บทความโดย: ทรงพล แจ่มแจ้ง (SOUND ENGINEER)

รับติดตั้งระบบเสียง ห้องประชุม ร้านอาหาร ผับบาร์ ห้องคาราโอเกะ ห้องจัดเลี้ยง ระบบเสียงสนามกีฬา ระบบเสียงร้านกาแฟ สามารถปรึกษาทางทีมงาน LIVE FOR SOUND ได้ พร้อมรับตรวจเช็ค แก้ไขปัญหาระบบเสียงทุกรูปแบบ โดยทีมงานมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี

สนใจสอบถาม คอร์สเรียนและหลักสูตรต่าง ๆ ได้ที่

โทรศัพท์ 02-550-6340, 064-198-2499

 Line : @liveforsound

 Email : sale@liveforsound.com

ไม่อยากพลาดคอนเทนต์ดีๆ ติดตามเราได้ที่

Facebook : Live For Sound

Youtube : Live For Sound

Tiktok : Liveforsound

Instagram : Liveforsound

สอบถามข้อมูลการเรียนได้ทาง