ลำโพง (Speaker)

ลำโพงเป็นอุปกรณ์ที่คุ้นเคยและใช้งานในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง, ดูหนัง ลำโพงยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม ไดรเวอร์ของลำโพงเป็นส่วนสำคัญของลำโพงที่ทำหน้าที่สร้างเสียง ประกอบด้วยคอยล์ (voice coil) ที่ถูกติดไว้กับแม่เหล็ก และเมื่อได้รับสัญญาณไฟฟ้าจากเครื่องขยายเสียง จะเคลื่อนที่ตามกำลังของแม่เหล็ก การเคลื่อนที่นี้ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและสร้างเสียงที่เราได้ยิน

การเลือกลำโพงที่เหมาะสมสำหรับความต้องการเป็นสิ่งที่สำคัญ เริ่มต้นด้วยการกำหนดงบประมาณและวัดขนาดห้อง เลือกให้ลำโพงที่มีขนาดและจำนวนที่เหมาะสม หลังจากนั้นคิดถึงประเภทของลำโพงที่เหมาะกับคุณ ต่อมาคือการเลือกระหว่างลำโพงแบบมีแอมป์ในตัว(Active) หรือไม่มีแอมป์ในตัว(Passive) การอ่านบทความและรีวิวและการรับคำปรึกษาจากผู้ขาย จะช่วยคุณเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติและประสิทธิภาพของลำโพงก่อนการตัดสินใจที่จะซื้อได้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยคุณในการเลือกและใช้ลำโพงให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการได้

จำหน่ายลำโพงทุกประเภท: ลำโพงกลางแจ้ง, ลำโพงไลน์อาเรย์, ลำโพงคอลัมน์, และ ลำโพงมอนิเตอร์

จำหน่ายลำโพง ลำโพง jbl แต่ละรุ่น ลำโพง bose ลำโพงไร้สาย ลำโพง 5.1 ลำโพงซับวูฟเฟอร์ลำโพง speaker ลำโพงคอมพิวเตอร์ ลำโพงกลางแจ้ง ลำโพงคอลัมน์ ลำโพงไลน์อาเรย์ ลำโพง Monitor ทุกยี่ห้อ พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อลำโพง

Speaker ลำโพง

แสดงทั้งหมด 10 ผลลัพท์

MARTIN AUDIO SX218 ลำโพงซับวูฟเฟอร์ 18 นิ้ว 8000วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 144dB

212,400฿
ตัวตู้ทำจาก Birchwood ดอกลำโพง 18 นิ้ว กำลังขับ 8000 วัตต์ ไม่มีแอมป์ในตัว ตอบสนองความถี่ 35Hz-150Hz ความดัง 144dB หนัก 98.5 กก.

MARTIN AUDIO TORUS T1230 ลำโพงไลน์อาเรย์ 12 นิ้ว 1600วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 132dB

238,800฿
ตัวตู้ทำจาก Plywood ดอกลำโพง 12 นิ้ว รองรับกำลังขับสูงสุด 1600 วัตต์ ไม่มีแอมป์ในตัว ตอบสนองความถี่ 65Hz – 18kHz ความดัง 132dB สามารถแขวนและตั้งบนขาตั้งได้ หนัก 26 กก.

MARTIN AUDIO TORUS T1215 ลำโพงไลน์อาเรย์ 12 นิ้ว 1600วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 134dB

238,800฿
ตัวตู้ทำจาก Plywood  ดอกลำโพง 12 นิ้ว รองรับกำลังขับสูงสุด 1600 วัตต์ ไม่มีแอมป์ในตัว ตอบสนองความถี่ 65Hz – 18kHz ความดัง 134dB สามารถแขวนและตั้งบนขาตั้งได้ หนัก 31 กก.

MARTIN AUDIO TORUS T820 ลำโพงไลน์อาเรย์ 8 นิ้ว 800วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 130dB

ตัวตู้ทำจาก Plywood ดอกลำโพง 8 นิ้ว รองรับกำลังขับสูงสุด 800 วัตต์ ไม่มีแอมป์ในตัว ตอบสนองความถี่ 70Hz – 18kHz ความดัง 130dB สามารถแขวนและตั้งบนขาตั้งได้ หนัก 14 กก.

MARTIN AUDIO Blackline X10 ลำโพงตู้พ้อยซอส 10 นิ้ว 1000วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 124dB

27,590฿
Martin Audio Blackline X10 ระบบลำโพงแบบพาสซีฟสองทางประสิทธิภาพสูงแต่มีขนาดกะทัดรัด ผู้ใช้หมุนได้ 90° x 50° horn การวางแนวแนวตั้งและแนวนอน

MARTIN AUDIO Blackline X12 ลำโพงตู้พ้อยซอส 10 นิ้ว 1200วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 128dB

32,590฿
Martin Audio Blackline X12 ลำโพง 12" ระบบสองทางแบบพาสซีฟขนาดกะทัดรัด ผู้ใช้หมุนได้ 80° x 50° horn ขั้วต่อ NL4 คู่ ขนาดกะทัดรัด

MARTIN AUDIO Blackline X118 ลำโพงซับวูฟเฟอร์ 18 นิ้ว 2000วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 137dB

44,490฿
Martin Audio Blackline X118 ซับวูฟเฟอร์ประสิทธิภาพสูงขนาดกะทัดรัดสำหรับใช้กับลำโพงฟูลเรนจ์ BlacklineX พอร์ตขนาดใหญ่เพื่อลดเสียงรบกวนของอากาศ

MARTIN AUDIO A55T ลำโพงตู้พ้อยซอส 5.25 นิ้ว 200วัตต์ที่ 16โอมห์ 30วัตต์ที่ 70/100V ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 113dB

19,900฿
Martin Audio A55T ลำโพง 2 ทาง 5.25 นิ้ว มีหม้อแปลง 70/100V พร้อมขายึดผนัง /ราคาต่อคู่ เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับระบบแบ็คกราวด์และโฟร์กราวด์

***ราคาต่อคู่***

MARTIN AUDIO Blackline X218 ลำโพงซับวูฟเฟอร์ 18 นิ้ว 6400วัตต์ที่ 4โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 141dB

83,590฿
Martin Audio Blackline X218 ซับวูฟเฟอร์ การทำงานที่ 42Hz-200Hz + 3dB ให้เอาต์พุตระดับสูงโดยมีความผิดเพี้ยนต่ำ และสามารถใช้เดี่ยวหรือวางซ้อนกันในแนวนอน

MARTIN AUDIO Blackline X15 ลำโพงตู้พ้อยซอส 15 นิ้ว 1600วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 131dB

44,000฿
Martin Audio Blackline X15 ออกแบบมาสำหรับการใช้งานแบบพกพาระดับมืออาชีพและการติดตั้งที่ต้องการประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพเสียงขั้นสูง

ลำโพงและการใช้งานในหลายประเภทและรูปแบบ

ลำโพง (Speaker) คืออุปกรณ์ที่มีความสำคัญในระบบเสียง ซึ่งสามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นเสียงได้โดยใช้อากาศเป็นตัวกลางในการส่งเสียงออกมาถึงหูของมนุษย์ บทความนี้จะสรุปแนวคิดและประเภทต่าง ๆ ของลำโพงที่มีอยู่ในตลาดในปัจจุบัน

ความหลากหลายของลำโพง

ลำโพงมีความหลากหลายทั้งในประเภทการใช้งานและรูปแบบ ดังนี้:

  1. ลำโพงแบบมีแอมป์ในตัว (Active Speaker): ลำโพงประเภทนี้มีภาคขยายเสียงภายในตัวและไม่ต้องต่อพ่วงเพาเวอร์แอมป์แยกภายนอก (Power Amplifier) ในบางรุ่นอาจมีฟังชันเสริม เช่น มิกเซอร์ (Mixer), บลูทูธ (Bluetooth), ไมโครโฟนไร้สาย (Wireless Microphone), และฟังชัน DSP (Digital Signal Processing) ที่ช่วยควบคุมการทำงานของลำโพง และในบางรุ่นอาจมีแบตเตอรี่ (Battery) มาให้ภายในตัวด้วย
  2. ลำโพงแบบไม่มีแอมป์ในตัว (Passive Speaker): ลำโพงประเภทนี้เป็นลำโพงตามปกติที่ต้องใช้เครื่องขยายเสียง (Power Amplifier) มาเป็นตัวขยายสัญญาณ (Signal) เพื่อให้สามารถใช้งานได้ สามารถเลือกเพาเวอร์แอมป์ที่จะใช้ร่วมด้วยได้ตามความต้องการและความชื่นชอบของผู้ใช้
  3. ลำโพงพ้อยซอส (Point Source Speaker): ลำโพงแบบนี้เห็นได้ทั่วไปและมักใช้ในงานทั่วไป เป็นลำโพง Full Range ที่ให้ความถี่ครอบคลุมโดยสมบูรณ์และมีความสามารถในการตอบสนองย่านความถี่ต่ำได้ในระดับหนึ่ง สามารถใช้ร่วมกับลำโพงซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer) เพื่อเสริมเสียงความถี่ต่ำ
  4. ลำโพงไลน์อาร์เรย์ (Line Array Speaker): ลำโพงแบบนี้มีลำโพงที่แขวนต่อกันหลายใบและมักใช้ในงานคอนเสิร์ต และงานกลางแจ้งขนาดใหญ่ ลำโพงไลน์อาร์เรย์มีคุณสมบัติให้เสียงที่ดัง ชัดเจน พุ่งไกล แต่มุมกระจายเสียงค่อนข้างแคบ สามารถใช้งานได้ดีในงานที่ต้องการความรอบรู้และการควบคุมเสียงที่ดี
  5. ลำโพงคอลัมน์ (Column Speaker): ลำโพงประเภทนี้มีดอกลำโพงขนาดเล็กหลายดอกเรียงกันเป็นแถว ตามแนวดิ่งอยู่ภายในตู้ใบเดียวกันเพื่อควบคุมมุมกระจายเสียงในเเนวตั้ง ทำให้ลดเสียงสะท้อนที่เกิดจากห้องได้ดี สามารถใช้งานในงานที่ต้องการความรายละเอียดของเสียงที่ดี
  6. ลำโพงซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer Speaker): ลำโพงประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความถี่ต่ำ และมักใช้ดอกลำโพงและตู้ลำโพงขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้เสียงความถี่ต่ำมีความลึกและความเป็นเสียง สามารถใช้ร่วมกับลำโพงเสียงกลางแหลม (Mid-Hi) ได้ดี เป็นที่นิยมในงานคอนเสิร์ตและงานดนตรีสด
  7. ลำโพงแบบอื่น ๆ: นอกจากนี้ยังมีลำโพงประเภทอื่น ๆ อีกมากมายที่ถูกออกแบบเพื่อรับมือกับความต้องการและสภาพการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ลำโพงชุดพกพา (Portable Speaker) และลำโพงรถยนต์ (Car Speaker) ซึ่งใช้ในรถยนต์

การเลือกใช้ลำโพงที่เหมาะสมกับงานและความต้องการของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้เสียงที่ดีและประสิทธิภาพที่สูงสุดในการใช้งานของคุณ ความหลากหลายของลำโพงที่มีอยู่ในตลาดให้คุณมีโอกาสเลือกสรรค์ตามความต้องการและงบประมาณของคุณอย่างแท้จริง

วิธีการเลือกซื้อลำโพง (Speaker)

การเลือกซื้อลำโพง (Speaker) ควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้ลำโพงที่ตอบสนองความต้องการและสภาพการใช้งานของคุณได้ดีที่สุด นี่คือคำแนะนำที่ควรคำนึงถึง:

  1. ประเภทของลำโพง: พิจารณาประเภทของลำโพงที่ต้องการ เช่น ไร้สาย, พกพา, หรือลำโพงสำหรับใช้ในบ้าน แต่ละประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน.
  2. คุณภาพเสียง: ควรฟังทดสอบเสียงของลำโพงก่อนตัดสินใจซื้อ ตรวจสอบว่ามีความชัดเจน, รายละเอียด, และบาลานซ์ของเสียงที่คุณพอใจหรือไม่ รวมถึงการตอบสนองของเสียงต่ำ (เบส) และเสียงสูง.
  3. ขนาดและการออกแบบ: พิจารณาขนาดและการออกแบบของลำโพงให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่คุณจะวางใช้งาน ลำโพงที่มีขนาดใหญ่อาจให้เสียงที่ดีกว่า แต่ก็ต้องใช้พื้นที่มากกว่า.
  4. ความสามารถในการเชื่อมต่อ: ตรวจสอบว่าลำโพงมีตัวเลือกการเชื่อมต่อที่คุณต้องการหรือไม่ เช่น Bluetooth, Wi-Fi, AUX, USB หรือการเชื่อมต่อแบบไร้สายอื่นๆ
  5. ความทนทาน: หากคุณต้องการลำโพงสำหรับการใช้งานนอกบ้านหรือพกพา ควรเลือกลำโพงที่มีความทนทาน กันน้ำ และสามารถต้านทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกได้ดี.
  6. งบประมาณ: กำหนดงบประมาณสำหรับการซื้อลำโพงและพยายามค้นหาตัวเลือกที่ดีที่สุดภายในราคาที่ตั้งไว้ คุณภาพเสียงที่ดีอาจต้องใช้เงินลงทุนมากขึ้น แต่ก็มีลำโพงคุณภาพดีในทุกระดับราคา.
  7. รีวิวและคำแนะนำ: อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณได้ภาพรวมของผลิตภัณฑ์และความพึงพอใจจากผู้ใช้งานจริง.

การเลือกซื้อลำโพงไม่ควรรีบร้อน ให้เวลาในการศึกษาข้อมูลและทดลองฟังเสียงหากเป็นไปได้ เพื่อให้คุณได้ลำโพงที่ตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง.

วิธีการดูแลลำโพง

การดูแลลำโพงเป็นส่วนสำคัญในการรักษาคุณภาพเสียงและยืดอายุการใช้งานของลำโพง นี่คือคำแนะนำสำหรับการดูแลลำโพงของคุณ:

  1. ทำความสะอาดอย่างเหมาะสม: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้านุ่มๆ ในการเช็ดฝุ่นบนลำโพงและตัวเครื่อง หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหรือสารเคมีที่รุนแรงที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย.
  2. รักษาความชื้นให้เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการวางลำโพงในที่ที่มีความชื้นสูง เพราะความชื้นสามารถทำให้เกิดความเสียหายกับส่วนประกอบภายในและเสียงที่ผลิตออกมา.
  3. หลีกเลี่ยงการตั้งในที่ที่มีแดดเผา: การโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานอาจทำให้วัสดุของลำโพงเสื่อมสภาพ เช่น การซีดจางของสีและการเสียรูปแบบ.
  4. ใช้งานในระดับเสียงที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการเปิดเสียงลำโพงที่ระดับความดังสูงเกินไปเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ขดลวดเสียงและส่วนประกอบอื่นๆ ของลำโพงเสื่อมสภาพเร็วขึ้น.
  5. ตรวจสอบและรักษาสายเชื่อมต่อ: ตรวจสอบสายเชื่อมต่อและปลั๊กอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการสึกหรอหรือการเชื่อมต่อที่หลวมซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพเสียง.
  6. การจัดเก็บ: หากไม่ใช้งานลำโพงเป็นเวลานาน ควรจัดเก็บในที่ที่ปลอดจากฝุ่นและความชื้น อาจใช้ผ้าคลุมเพื่อป้องกันฝุ่น.
  7. หลีกเลี่ยงการกระแทกและการตก: รักษาลำโพงให้พ้นจากการกระแทกหรือการตกจากที่สูง เพราะสิ่งนี้สามารถทำให้เกิดความเสียหายทั้งภายนอกและภายในได้.
  8. ใช้ฟังก์ชันการป้องกัน: สำหรับลำโพงที่มีฟังก์ชันการป้องกันเช่นการป้องกันความดันเสียงสูงหรือการตัดเสียงอัตโนมัติ เปิดใช้งานฟังก์ชันเหล่านี้เพื่อป้องกันความเสียหาย.

การดูแลลำโพงอย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้ลำโพงของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ยังช่วยรักษาคุณภาพเสียงที่ดีได้เช่นกัน.