ลำโพง (Speaker)

ลำโพงเป็นอุปกรณ์ที่คุ้นเคยและใช้งานในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง, ดูหนัง ลำโพงยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม ไดรเวอร์ของลำโพงเป็นส่วนสำคัญของลำโพงที่ทำหน้าที่สร้างเสียง ประกอบด้วยคอยล์ (voice coil) ที่ถูกติดไว้กับแม่เหล็ก และเมื่อได้รับสัญญาณไฟฟ้าจากเครื่องขยายเสียง จะเคลื่อนที่ตามกำลังของแม่เหล็ก การเคลื่อนที่นี้ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนและสร้างเสียงที่เราได้ยิน

การเลือกลำโพงที่เหมาะสมสำหรับความต้องการเป็นสิ่งที่สำคัญ เริ่มต้นด้วยการกำหนดงบประมาณและวัดขนาดห้อง เลือกให้ลำโพงที่มีขนาดและจำนวนที่เหมาะสม หลังจากนั้นคิดถึงประเภทของลำโพงที่เหมาะกับคุณ ต่อมาคือการเลือกระหว่างลำโพงแบบมีแอมป์ในตัว(Active) หรือไม่มีแอมป์ในตัว(Passive) การอ่านบทความและรีวิวและการรับคำปรึกษาจากผู้ขาย จะช่วยคุณเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติและประสิทธิภาพของลำโพงก่อนการตัดสินใจที่จะซื้อได้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยคุณในการเลือกและใช้ลำโพงให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการได้

จำหน่ายลำโพงทุกประเภท: ลำโพงกลางแจ้ง, ลำโพงไลน์อาเรย์, ลำโพงคอลัมน์, และ ลำโพงมอนิเตอร์

จำหน่ายลำโพง ลำโพง jbl แต่ละรุ่น ลำโพง bose ลำโพงไร้สาย ลำโพง 5.1 ลำโพงซับวูฟเฟอร์ลำโพง speaker ลำโพงคอมพิวเตอร์ ลำโพงกลางแจ้ง ลำโพงคอลัมน์ ลำโพงไลน์อาเรย์ ลำโพง Monitor ทุกยี่ห้อ พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อลำโพง

Speaker ลำโพง

แสดงทั้งหมด 11 ผลลัพท์

VL-AUDIO ST-3LV ขาวางลำโพงแบบโมโน

790฿
สำหรับวางลำโพงรุ่น VIVA-715 VIVA-718 ปรับระดับต่ำสุด 99.5 CM. ปรับระดับสูงสุด 160.5 CM.

VL-AUDIO VIVA 712D ลำโพงตู้พ้อยซอส 12 นิ้ว 1400วัตต์ มีแอมป์ในตัว ความดัง 135dB

15,400฿
ตัวตู้ทำจาก Polypropylene Composite ดอกลำโพง 12 นิ้ว กำลังขับ 1400 วัตต์ มีแอมป์ในตัว ตอบสนองความถี่ 56Hz – 20kHz ความดัง 135dB สามารถตั้งบนขาตั้งได้ หนัก 17.77 กก.

VL-AUDIO WS-64 ลำโพงตู้พ้อยซอส 6 นิ้ว 40วัตต์ที่ 8โอมห์ 40วัตต์ที่ 70/100V ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 104dB

3,100฿
VL-Audio WS-64 ขนาด 6 นิ้ว 2 ทาง หมาะสำหรับการใช้งานในโรงงา โรงเรียน โรงแรม สำนักงาน ที่ต้องการเปิด BGM เรามีทีมวิศวกรออกแบบให้เข้ากับพื้นที่

VL-AUDIO VD-12M ลำโพงตู้พ้อยซอส 12 นิ้ว 400วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 134dB

11,500฿
VL-Audio VD-12M ลำโพงมอนิเตอร์ 2 ทางแบบพาสซิฟ ฮอร์นหมุนได้พร้อมการกระจายเสียง 90º x 60º เพื่อการใช้งานมอนิเตอร์เสียงบนเวที

VL-AUDIO VD-18S ลำโพงซับวูฟเฟอร์ 18 นิ้ว 3200วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 132dB

15,200฿
VL-Audio VD-18S ลำโพงซับวูฟเฟอร์ ด้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการผสมผสานแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนทั้งคุณภาพเสียงที่ดี พกพาได้ ขนาดกะทัดรัด และ ทนทาน  

VL-AUDIO VD-12L ลำโพงไลน์อาเรย์ 12 นิ้ว 1600วัตต์ที่ 8โอมห์ ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 134dB

19,500฿
ตัวตู้ทำจาก Plywood with water based textured coatings ดอกลำโพง 12 นิ้ว รองรับกำลังขับสูงสุด 1600 วัตต์ ไม่มีแอมป์ในตัว ตอบสนองความถี่ 58Hz – 16kHz ความดัง 134dB หนัก 33 กก.

VL-AUDIO CS-630 ลำโพงเพดาน 6 นิ้ว 30วัตต์ที่ 8โอมห์ 70/100V ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 102dB

1,320฿
VL-AUDIO CS-630 ลำโพงติดเพดานขนาด 6 นิ้ว 2 ทาง ที่ให้เสียงชัดเจนและเป็นธรรมชาติ รูปแบบลำโพงเป็นแบบ Coaxial มีดอกเสียงแหลมอยู่ตรงกลาง

VL-AUDIO MT-65 ลำโพงเพดาน 6.5 นิ้ว 160วัตต์ที่ 8โอมห์ 40วัตต์ที่ 70/100V ไม่มีแอมป์ในตัว ความดัง 104dB

4,200฿
ตัวแทนจำหน่าย VL-AUDIO MT-65 ลำโพงติดเพดานและติดผนัง ลำโพงอเนกประสงค์ที่สามารถติดตั้งเป็นลำโพงแบบแขวน ติดผนัง ผลิตจากโครงสร้างระดับพรีเมียม

VL-AUDIO VIVA 718D ลำโพงซับวูฟเฟอร์ 18 นิ้ว 2800วัตต์ มีแอมป์ในตัว ความดัง 134dB

29,500฿
ตัวตู้ทำจาก Baltic birch plywood ดอกลำโพง 18 นิ้ว รองรับกำลังขับสูงสุด 2800 วัตต์ มีแอมป์ในตัว ตอบสนองความถี่ 30Hz – 400Hz ความดัง 134dB หนัก 50 กก.

VL-AUDIO VIVA 715D ลำโพงตู้พ้อยซอส 15 นิ้ว 1400วัตต์ มีแอมป์ในตัว ความดัง 136dB

16,500฿
ตัวตู้ทำจาก Polypropylene Composite ดอกลำโพง 15 นิ้ว กำลังขับ 1400 วัตต์ มีแอมป์ในตัว ตอบสนองความถี่ 45Hz – 20kHz ความดัง 136dB สามารถตั้งบนขาตั้งได้ หนัก 20 กก.

ลำโพงและการใช้งานในหลายประเภทและรูปแบบ

ลำโพง (Speaker) คืออุปกรณ์ที่มีความสำคัญในระบบเสียง ซึ่งสามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นเสียงได้โดยใช้อากาศเป็นตัวกลางในการส่งเสียงออกมาถึงหูของมนุษย์ บทความนี้จะสรุปแนวคิดและประเภทต่าง ๆ ของลำโพงที่มีอยู่ในตลาดในปัจจุบัน

ความหลากหลายของลำโพง

ลำโพงมีความหลากหลายทั้งในประเภทการใช้งานและรูปแบบ ดังนี้:

  1. ลำโพงแบบมีแอมป์ในตัว (Active Speaker): ลำโพงประเภทนี้มีภาคขยายเสียงภายในตัวและไม่ต้องต่อพ่วงเพาเวอร์แอมป์แยกภายนอก (Power Amplifier) ในบางรุ่นอาจมีฟังชันเสริม เช่น มิกเซอร์ (Mixer), บลูทูธ (Bluetooth), ไมโครโฟนไร้สาย (Wireless Microphone), และฟังชัน DSP (Digital Signal Processing) ที่ช่วยควบคุมการทำงานของลำโพง และในบางรุ่นอาจมีแบตเตอรี่ (Battery) มาให้ภายในตัวด้วย
  2. ลำโพงแบบไม่มีแอมป์ในตัว (Passive Speaker): ลำโพงประเภทนี้เป็นลำโพงตามปกติที่ต้องใช้เครื่องขยายเสียง (Power Amplifier) มาเป็นตัวขยายสัญญาณ (Signal) เพื่อให้สามารถใช้งานได้ สามารถเลือกเพาเวอร์แอมป์ที่จะใช้ร่วมด้วยได้ตามความต้องการและความชื่นชอบของผู้ใช้
  3. ลำโพงพ้อยซอส (Point Source Speaker): ลำโพงแบบนี้เห็นได้ทั่วไปและมักใช้ในงานทั่วไป เป็นลำโพง Full Range ที่ให้ความถี่ครอบคลุมโดยสมบูรณ์และมีความสามารถในการตอบสนองย่านความถี่ต่ำได้ในระดับหนึ่ง สามารถใช้ร่วมกับลำโพงซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer) เพื่อเสริมเสียงความถี่ต่ำ
  4. ลำโพงไลน์อาร์เรย์ (Line Array Speaker): ลำโพงแบบนี้มีลำโพงที่แขวนต่อกันหลายใบและมักใช้ในงานคอนเสิร์ต และงานกลางแจ้งขนาดใหญ่ ลำโพงไลน์อาร์เรย์มีคุณสมบัติให้เสียงที่ดัง ชัดเจน พุ่งไกล แต่มุมกระจายเสียงค่อนข้างแคบ สามารถใช้งานได้ดีในงานที่ต้องการความรอบรู้และการควบคุมเสียงที่ดี
  5. ลำโพงคอลัมน์ (Column Speaker): ลำโพงประเภทนี้มีดอกลำโพงขนาดเล็กหลายดอกเรียงกันเป็นแถว ตามแนวดิ่งอยู่ภายในตู้ใบเดียวกันเพื่อควบคุมมุมกระจายเสียงในเเนวตั้ง ทำให้ลดเสียงสะท้อนที่เกิดจากห้องได้ดี สามารถใช้งานในงานที่ต้องการความรายละเอียดของเสียงที่ดี
  6. ลำโพงซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer Speaker): ลำโพงประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความถี่ต่ำ และมักใช้ดอกลำโพงและตู้ลำโพงขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้เสียงความถี่ต่ำมีความลึกและความเป็นเสียง สามารถใช้ร่วมกับลำโพงเสียงกลางแหลม (Mid-Hi) ได้ดี เป็นที่นิยมในงานคอนเสิร์ตและงานดนตรีสด
  7. ลำโพงแบบอื่น ๆ: นอกจากนี้ยังมีลำโพงประเภทอื่น ๆ อีกมากมายที่ถูกออกแบบเพื่อรับมือกับความต้องการและสภาพการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ลำโพงชุดพกพา (Portable Speaker) และลำโพงรถยนต์ (Car Speaker) ซึ่งใช้ในรถยนต์

การเลือกใช้ลำโพงที่เหมาะสมกับงานและความต้องการของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้เสียงที่ดีและประสิทธิภาพที่สูงสุดในการใช้งานของคุณ ความหลากหลายของลำโพงที่มีอยู่ในตลาดให้คุณมีโอกาสเลือกสรรค์ตามความต้องการและงบประมาณของคุณอย่างแท้จริง

วิธีการเลือกซื้อลำโพง (Speaker)

การเลือกซื้อลำโพง (Speaker) ควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้ลำโพงที่ตอบสนองความต้องการและสภาพการใช้งานของคุณได้ดีที่สุด นี่คือคำแนะนำที่ควรคำนึงถึง:

  1. ประเภทของลำโพง: พิจารณาประเภทของลำโพงที่ต้องการ เช่น ไร้สาย, พกพา, หรือลำโพงสำหรับใช้ในบ้าน แต่ละประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน.
  2. คุณภาพเสียง: ควรฟังทดสอบเสียงของลำโพงก่อนตัดสินใจซื้อ ตรวจสอบว่ามีความชัดเจน, รายละเอียด, และบาลานซ์ของเสียงที่คุณพอใจหรือไม่ รวมถึงการตอบสนองของเสียงต่ำ (เบส) และเสียงสูง.
  3. ขนาดและการออกแบบ: พิจารณาขนาดและการออกแบบของลำโพงให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่คุณจะวางใช้งาน ลำโพงที่มีขนาดใหญ่อาจให้เสียงที่ดีกว่า แต่ก็ต้องใช้พื้นที่มากกว่า.
  4. ความสามารถในการเชื่อมต่อ: ตรวจสอบว่าลำโพงมีตัวเลือกการเชื่อมต่อที่คุณต้องการหรือไม่ เช่น Bluetooth, Wi-Fi, AUX, USB หรือการเชื่อมต่อแบบไร้สายอื่นๆ
  5. ความทนทาน: หากคุณต้องการลำโพงสำหรับการใช้งานนอกบ้านหรือพกพา ควรเลือกลำโพงที่มีความทนทาน กันน้ำ และสามารถต้านทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกได้ดี.
  6. งบประมาณ: กำหนดงบประมาณสำหรับการซื้อลำโพงและพยายามค้นหาตัวเลือกที่ดีที่สุดภายในราคาที่ตั้งไว้ คุณภาพเสียงที่ดีอาจต้องใช้เงินลงทุนมากขึ้น แต่ก็มีลำโพงคุณภาพดีในทุกระดับราคา.
  7. รีวิวและคำแนะนำ: อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ข้อมูลเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณได้ภาพรวมของผลิตภัณฑ์และความพึงพอใจจากผู้ใช้งานจริง.

การเลือกซื้อลำโพงไม่ควรรีบร้อน ให้เวลาในการศึกษาข้อมูลและทดลองฟังเสียงหากเป็นไปได้ เพื่อให้คุณได้ลำโพงที่ตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง.

วิธีการดูแลลำโพง

การดูแลลำโพงเป็นส่วนสำคัญในการรักษาคุณภาพเสียงและยืดอายุการใช้งานของลำโพง นี่คือคำแนะนำสำหรับการดูแลลำโพงของคุณ:

  1. ทำความสะอาดอย่างเหมาะสม: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้านุ่มๆ ในการเช็ดฝุ่นบนลำโพงและตัวเครื่อง หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหรือสารเคมีที่รุนแรงที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย.
  2. รักษาความชื้นให้เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการวางลำโพงในที่ที่มีความชื้นสูง เพราะความชื้นสามารถทำให้เกิดความเสียหายกับส่วนประกอบภายในและเสียงที่ผลิตออกมา.
  3. หลีกเลี่ยงการตั้งในที่ที่มีแดดเผา: การโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานอาจทำให้วัสดุของลำโพงเสื่อมสภาพ เช่น การซีดจางของสีและการเสียรูปแบบ.
  4. ใช้งานในระดับเสียงที่เหมาะสม: หลีกเลี่ยงการเปิดเสียงลำโพงที่ระดับความดังสูงเกินไปเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ขดลวดเสียงและส่วนประกอบอื่นๆ ของลำโพงเสื่อมสภาพเร็วขึ้น.
  5. ตรวจสอบและรักษาสายเชื่อมต่อ: ตรวจสอบสายเชื่อมต่อและปลั๊กอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการสึกหรอหรือการเชื่อมต่อที่หลวมซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพเสียง.
  6. การจัดเก็บ: หากไม่ใช้งานลำโพงเป็นเวลานาน ควรจัดเก็บในที่ที่ปลอดจากฝุ่นและความชื้น อาจใช้ผ้าคลุมเพื่อป้องกันฝุ่น.
  7. หลีกเลี่ยงการกระแทกและการตก: รักษาลำโพงให้พ้นจากการกระแทกหรือการตกจากที่สูง เพราะสิ่งนี้สามารถทำให้เกิดความเสียหายทั้งภายนอกและภายในได้.
  8. ใช้ฟังก์ชันการป้องกัน: สำหรับลำโพงที่มีฟังก์ชันการป้องกันเช่นการป้องกันความดันเสียงสูงหรือการตัดเสียงอัตโนมัติ เปิดใช้งานฟังก์ชันเหล่านี้เพื่อป้องกันความเสียหาย.

การดูแลลำโพงอย่างเหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้ลำโพงของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ยังช่วยรักษาคุณภาพเสียงที่ดีได้เช่นกัน.