แนวทางการเลือกไมโครโฟนประชุมหรือ Conference Microphone สำหรับใช้งาน

ไมค์ประชุม Conference

ใช้ไมโครโฟน Conference แบบไหนดี ?

        ไมโครโฟนประชุมหรือ Conference Microphone เป็นอุปกรณ์สำหรับส่งและแลกเปลี่ยนสัญญาณ โดยส่งสัญญาณเสียงจากไมโครโฟนไปสู่ตัวรับเพื่อถ่ายทอดเข้าสู่ลำโพง หรือไปยังระบบเสียงสำหรับไมโครโฟนประชุม การเลือกไมโครโฟนมีความสำคัญในลำดับแรก ๆ เพราะหากเราเลือกไมค์ประชุมได้ถูกต้องเหมาะสมนั้น ย่อมส่งผลดีต่อการประชุม ทั้งในแง่ของความสบายตา และเกิดความราบรื่นในการประชุมได้ ดังนั้นในการเลือกไมโครโฟนประชุม เราควรคำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้คือ

  • ลักษณะของห้องประชุม ทั้งขนาดความกว้าง ความยาว ความสูงของหลังคา รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจเลือกประเภทไมค์ที่เหมาะสมได้
  • คุณภาพเสียงและสัญญาณ ไมโครโฟนประชุมแต่ละชนิดมีคุณภาพเสียง และการส่งสัญญาณที่แตกต่างกัน มีทั้งแบบ Analog และ Digital และการส่งสัญญาณแบบมีสายและไร้สาย
  • ทิศทางการรับเสียงของไมโครโฟน เพราะไมโครโฟนประชุมมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบคอห่าน แบบยาว แบบสั้น หรือแบบฝังในโต๊ะ มีทิศทางการรับเสียงทั้งแบบรับได้ทิศทางเดียว และแบบรับได้รอบทิศทาง
  • จำนวนผู้เข้าร่วมในการประชุม เพื่อการตัดสินใจในการเลือกจำนวนชุดไมโครโฟนหรือชนิดของไมโครโฟนที่เหมาะสม
  • ความสวยงามผลิตภัณฑ์และการออกแบบที่เหมาะสมต่อการใช้งานจริง เช่น  ไฟสถานะทำงานได้ดีหรือไม่ ฐานวางไมโครโฟนมั่นคงหรือไม่ เป็นต้น

        สำหรับไมโครโฟนประชุมหรือ Conference Microphone สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ไมโครโฟนประชุมตั้งโต๊ะแบบมีสาย (Wired Desktop Conference System) ไมโครโฟนประชุมฝังโต๊ะแบบมีสาย (Wire Flush Mount Conference Microphone) และไมโครโฟนประชุมตั้งโต๊ะแบบไร้สาย (Wireless Desktop Conference Microphone System) ซึ่งไมโครโฟนประชุมทั้ง 3 ประเภทนี้ มีเอกลักษณ์ ข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้คือ

ไมโครโฟนประชุมตั้งโต๊ะแบบมีสาย

        ไมโครโฟนประชุมตั้งโต๊ะแบบมีสาย (Wired Desktop Conference System) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการประชุมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ไมโครโฟนแบบตั้งโต๊ะจะวางอยู่บนโต๊ะและสามารถรับเสียงของผู้พูดได้อย่างใกล้ชิด ด้วยไมโครโฟนทิศทางแบบ cardioid จึงให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมมี 2 ระบบ คือ ระบบการประชุม แบบ Analog ซึ่งสัญญาณถูกส่งด้วยรูปแบบ Analog จะมีจุดเด่นเรื่องความเสถียรและราคาถูก แต่ ระบบนี้ จะถูกจำกัดในแง่ของฟังก์ชั่นเพิ่มเติมต่าง ๆ เช่น อาจจะมีมาให้แค่ปุ่มตัดเสียงสำหรับไมโครโฟนประธาน เป็นต้น ระบบที่ 2 คือ ระบบการประชุมดิจิตอล ทำงานโดยชิปประมวลผลสัญญาณดิจิตอล (DSP) ในตัวให้คุณภาพเสียงที่ชัดเจน มีฟังก์ชั่นหลากหลาย เช่น ฟังก์ชั่นการโหวตลงคะแนน ระบบการแปลภาษา การบันทึกการประชุมผ่าน USB เป็นต้น ซึ่งระบบการประชุมดิจิตอลนี้ ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน    

ไมโครโฟนประชุมฝังโต๊ะแบบมีสาย

        ไมโครโฟนประชุมฝังโต๊ะแบบมีสาย (Wire Flush Mount Conference Microphone) ฟังก์ชั่นพื้นฐานทั้งหมดเกือบจะเหมือนกับไมโครโฟนแบบตั้งโต๊ะ แต่จะมีความโดนเด่นการออกแบบและความสวยงามโดยรวม ไมโครโฟนประชุมแบบฝังโต๊ะ จะเป็นไมโครโฟนชนิด Digital ที่เน้นความเรียบหรูให้ไมโครโฟนดูกลมกลืนกับโต๊ะ ดูสวยงาม มีทั้งแบบที่มีแค่ก้านไมโครโฟนเท่านั้นที่ยื่นออกมา หรือ แบบ Boundary Microphone ที่ตัวไมโครโฟนฝังราบเรียบไปกับโต๊ะประชุม ทำให้โต๊ะประชุมดูสวยงาม ไม่เกะกะสายตา มีระบบเสียบบัตรแสดงตน การกดโหวตลงคะแนน จึงเหมาะกับห้องประชุมบอร์ดบริหาร ห้องประชุมสภา เป็นต้น

ไมโครโฟนประชุมตั้งโต๊ะแบบไร้สาย

        ไมโครโฟนประชุมตั้งโต๊ะแบบไร้สาย (Wireless Desktop Conference Microphone System) เป็นไมโครโฟนสำหรับการประชุมหรือเทอร์มินัลการประชุมที่พัฒนาจากแบบมีสายเป็นแบบไร้สาย ช่วงความถี่หลักของไมโครโฟนสำหรับการประชุมแบบไร้สาย จะมีคลื่นความถี่ให้เลือกใช้คือ คลื่น UHF คลื่น Digital 2.4GHz หรือ 5GHz และคลื่นรังสีอินฟราเรด หรือ IR โดยข้อดีข้อเสียของการใช้คลื่นแต่ละชนิดคือ คลื่น UHF จะมีช่องสัญญาณที่แคบ ทำให้ใช้ไมโครโฟนประชุมได้จำนวนน้อยกว่าคลื่น Digital 2.4GHz และ 5GHz ที่มีช่องสัญญาณที่กว้างกว่าช่วงคลื่นความถี่ UHF ทำให้สามารถใช้ไมโครโฟนประชุมได้หลายตัว ในปัจจุบันคลื่นความถี่ อินฟราเรด (IR) ที่มีความเสถียรในการรับส่งสัญญาณ ก็กำลังเป็นอีกหนึ่งคลื่นความถี่ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

       ไมโครโฟนประชุมแบบไร้สายนั้น จะโดดเด่นในเรื่องความเป็นระเบียบ และสวยงาม เนื่องจากไม่มีการเดินสายสัญญาณ มักจะถูกเลือกใช้กับห้องที่ออกแบบและตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือกับโต๊ะประชุมที่ไม่มีรูสำหรับร้อยสาย ไมโครโฟนประชุมแบบไร้สายจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับห้องประชุมที่มีความต้องการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางโต๊ะประชุมอยู่บ่อย ๆ หรือมีการใช้ห้องในการทำกิจกรรมอย่างอื่น เป็นต้น 

ข้อดีและข้อเสียของไมโครโฟนประชุมแบบมีสายและแบบไร้สาย

  • ไมโครโฟนแบบมีสาย มีทั้งแบบอนาล็อกหรือดิจิตอล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่มีการติดตั้งอุปกรณ์เพียงครั้งเดียวและมีการเคลื่อนย้ายไม่บ่อยนัก ข้อดีคือ ต้านทานการรบกวนด้วยคุณภาพและความเสถียรที่ดี ติดตั้งง่ายและค่าบำรุงรักษาต่ำ ข้อเสียคือ ใช้ได้กับระบบประชุมที่มีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนไม่มากนัก และเนื่องจากเหมาะกับการติดตั้งถาวรจึงมีความคล่องตัวน้อยในการใช้งาน และเนื่องจากอุปกรณ์มีการเดินสายสัญญาณ บางครั้งก็อาจเกิดความไม่สวยงามได้
  • ไมโครโฟนประชุมแบบไร้สาย มีทั้งเทคโนโลยีแบบไวไฟ (WiFi) และแบบรังสีอินฟราเรด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสถานที่ประชุมอเนกประสงค์ที่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานห้องบ่อย ๆ หรือต้องการเน้นความสวยงามสบายตา ข้อดีคือ สามารถเพิ่มจำนวนไมโครโฟน รองรับผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก มีความคล่องตัวในการใช้งาน มีฟังชั่นอเนกประสงค์สำหรับการใช้งานมากมายเช่น แปลภาษา บันทึกการประชุม เป็นต้น ข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูง จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริม เช่น แบตเตอรี่สำหรับไมโครโฟนประชุม เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ แบตเตอรี่สำรอง อุปกรณ์ปล่อยสัญญาณ การจัดเก็บและการจัดการที่ไม่สะดวก มีโอกาสเกิดสัญญาณรบกวนจากคลื่น WI-FI ภายในอาคาร การติดตั้งซ้ำ ๆ ส่งผลต่ออายุการใช้งานอุปกรณ์ เป็นต้น

สรุป :

นอกจากจะต้องพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังต้องคำนึงถึงงบประมาณในการเลือกซื้อ ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องของผู้ขาย การดูแลหลังการขาย หรือความเป็นมืออาชีพของทีมงานติดตั้งอุปกรณ์ เราแนะนำให้ทุกท่านอ่านบทความ อุปกรณ์ เครื่องเสียงห้องประชุม ควรมีอะไรบ้าง? เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น หากมีความสนใจที่จะเลือกซื้อไมโครโฟนประชุม หรืออยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ Siam Sound Store ทางเรามีทีมงานให้คำปรึกษาด้านการเลือกผลิตภัณฑ์ เรามีทีมงานติดตั้งมืออาชีพไว้คอยให้บริการทุกท่านครับ

ห้องประชุมขนาดใหญ่
ควรมีอุปกรณ์อะไรบ้าง ?

ทรงพล แจ่มแจ้ง

 

นอกจากนี้ทาง Live For Sound ยังมีคอร์สเรียนเกี่ยวกับระบบเสียงที่น่าสนใจ เช่น คอร์สเรียนวิศวกรระบบเสียง คอร์สเรียนการมิกซืเสียงงานแสดงสด 

หากสนใจอุปกรณ์ระบบประชุมออนไลน์ สามารถโทรปรึกษาทาง Live For Sound เรามีทีมงานออกแบบและติดตั้งระบบเสียงห้องประชุมอย่างมือชีพและเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ห้องประชุมออนไลน์ ทุกยี่ห้อ พร้อมบริการหลังการขายเต็มรูปแบบ

Live For Sound รับออกแบบ ติดตั้ง จำหน่าย ระบบเครื่องเสียงห้องประชุมพร้อมบริการหลังการขายแบบครบวงจร ด้วยทีมงานระดับมืออาชีพ มาตรฐานสากล

โทรศัพท์ 02-550-6340, 064-198-2499
Line : @liveforsound
Email : [email protected]

บทความโดย: ทรงพล แจ่มแจ้ง (SOUND ENGINEER)

         รับติดตั้งระบบเสียง ห้องประชุม ร้านอาหาร ผับบาร์ ห้องคาราโอเกะ ห้องจัดเลี้ยง ระบบเสียงสนามกีฬา ระบบเสียงร้านกาแฟ สามารถปรึกษาทางทีมงาน LIVE FOR SOUND ได้ พร้อมรับตรวจเช็ค แก้ไขปัญหาระบบเสียงทุกรูปแบบ โดย ทรงพล แจ่มแจ้ง และทีมงานมืออาชีพ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี

สอบถามข้อมูลการติดตั้งได้ทาง